" ชีวิตอันแสนวิเศษ " ตราบใดที่ยังมีลมหายใจจงใช้ชีวิตอันแสนวิเศษให้คุ้มค่ากับการเกิดมาเป็นมนุษย์

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ความหลากหลายทางเพศที่มีอยู่ในตัวตน

         ปัจจุบันสังคมเราค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับความหลากหลายทางเพศ ดังจะสังเกตได้จากสื่อทางทีวีที่มักจะมีคนที่มีความหลากหลายทางเพศมาให้เห็นบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรายการทีวีที่มีท่าทางตุ้งติ้ง นักแสดงหรือนักร้องที่เป็นสาวประเภทสอง แม้แต่นักร้องขวัญใจวัยรุ่นที่มีหน้าตาหล่อเหลาจนชายแท้ๆต้องถอยไป คงจะไม่แปลกถ้าเขาเป็นผู้ชายแต่เธอเป็นสาวหล่อ ฯลฯ เมื่อสมัยก่อนตอนผมกำลังเริ่มเป็นวัยรุ่น มีนักร้องบอยแบนด์สุดหล่อที่ผมชื่นชอบมาก ชื่อวง You4 ยูโฟร์ สมาชิกมี 4 คน แต่ละคนเป็นหนุ่มหล่อมาดเท่ห์ หน้าตาดี เก่งทั้งร้องเพลงและเต้นแต่กาลเวลาผ่านไป เมื่อสังคมของความหลากหลายทางเพศเปิดกว้างขึ้น หนึ่งในสมาชิกนักร้องคนหนึ่งของวงได้ประกาศช็อกวงการว่าเขาเป็นสาวประเภทสอง เขาออกทีวีด้วยภาพลักษณ์ใหม่ จากนักร้องชายมาดเท่ห์เขากับกลายเป็นผู้หญิงซะแล้ว ผมคิดว่าไม่ใช่เขาเพียงคนเดียวที่ประกาศตัวว่าไม่ใช่ชายแท้ แต่สำหรับคนอื่นๆเขาอาจจะไม่ประกาศตัว แต่ดูๆแล้วยังคงเป็นคำถามคาใจ หรือ บางทีก็ไม่คาใจ ว่า "คนนี้ใช่หรือเปล่า"
ใครจะคาดคิดว่านักร้องหนุ่มหล่อจะกลายเป็นสาวสวย
 สำหรับผมไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะเพศอะไร ถ้าเขาทำประโยชน์ให้สังคมและเป็นแบบอย่างที่ดี ผมว่ามันก็ไม่เสียหายอะไรที่เขาจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ดีกว่าที่จะมาออกทีวีหลอกผู้ชมว่าตนเองเป็นชายหรือหญิง 100% ทั้งๆที่เขาไม่ได้เป็น
           อาจจะกล่าวได้ว่าในประเทศไทย เราสามารถพบเห็นความหลากหลายทางเพศได้โดยทั่วไป หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเราอยู่แล้ว ตัวอย่างง่ายๆเช่น เพื่อนที่เรียนวิทยาลัยด้วยกัน หรือเพื่อนร่วมงาน มักจะมีคนที่เป็นเกย์ ทอม หรือ สาวประเภทสองอยู่ด้วยเสมอ แต่ในสังคมของบางประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เรื่องนี้สังคมยังไม่เปิดกว้าง แต่ก็มีคนที่มีความหลากหลายทางเพศแฝงอยู่ เพียงแต่ไม่สามารถแสดงออกได้ ซึ่งตรงข้ามกับสังคมบ้านเราที่เปิดโอกาสให้แสดงออกได้เต็มที่ เช่น นักศึกษาชายที่เป็นสาวประเภทสองสามารถใส่ชุดนักศึกษาผู้หญิงได้ หรือ บุคคลสาธารณะ อย่างเช่น นักร้อง นักแสดง สามารถแสดงตัวตนที่มีความหลากหลายทางเพศออกสื่อได้ เป็นต้น สิ่งนี้แสดงให้ว่าสังคมไทยมีความตระหนักในการให้สิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกันและมีความเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนร่วมสังคม แต่ในบางตำแหน่งหน้าที่เช่น พระ หรือ เณร การแสดงออกของตัวตนที่มีความหลากหลายทางเพศจนมากจนเกินไป ยังเป็นสิ่งที่ยอมรับกันไม่ได้ อย่างเช่น เณรเขียนคิ้วแต่งหน้า พระที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ เป็นต้น ผมใช้คำว่า "มากจนเกินไป" เพราะผมยอมรับนับถือพระหรือเณรที่อาจจะมีความหลากหลายทางเพศอยู่ในตัว แต่สำรวมและประพฤติตัวดีสมกับที่ได้ห่มผ้าเหลือง กล่าวคือไม่ว่าจะเพศอะไรถ้าประพฤติตัวดีทำประโยชน์ให้สังคมผมก็ไม่เกี่ยงว่าเขาจะอยู่ในเพศไหน แต่บางครั้งการแสดงออกที่มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้คนเอื่อมละอาเอาได้ จริงอยู่ว่าการแสดงออกถึงความ

แต่ละชุดแต่ละท่าของพี่แกสร้างความฮือฮาได้ตลอด
หลากหลายทางเพศที่มีอยู่ในตัวไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่ถ้ามันมากจนเกินไปผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเอาเสียเลย มันกลับจะยิ่งสร้างความเข้าใจผิดให้กับคนที่ไม่เข้าใจในสิ่งนี้อยู่แล้วว่า "คนที่มีความหลากหลายทางเพศต้องแสดงออกแบบนี้เสมอ" ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่ แต่การจะบอกว่าอะไรคือการแสดงออกที่มากจนเกินไปนั้นเป็นสิ่งที่บอกได้ยาก สุดแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ส่วนคนที่มีความหลากหลายทางเพศในตัวควรจะแสดงออกมากน้อยเพียงใด นั้นผมคิดว่าอยู่ที่ตัวบุคคลคนนั้นว่าเขารู้จักคำว่า "พอดีพองาม กาลเทศะ" มากน้อยเพียงใด....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติชมได้เลยครับยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น
สำหรับคนที่ไม่มี ID ของ Gmail หรือ บล็อกของค่ายอื่นๆ
เลือกโปรไฟล์... > (ไม่ระบุชื่อ) หรือ (ชื่อ/URL) ตรง URL ไม่ใส่ก็ได้